วันนี้จะมาเล่าเรื่องหนึ่ง ที่เรามักพบเจอกันในหลายๆ ครอบครัวเลย
เป็นเรื่องของครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีพี่น้องหลายคน คุณพ่อเป็นเสาหลักของบ้าน มีทรัพย์สินมากมาย แต่กลับไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ก่อนที่ท่านจะจากไป
เมื่อท่านจากไป ทรัพย์สินทุกอย่างจึงตกเป็นของทายาทโดยกฎหมาย แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นทันทีที่ต้องมาแบ่งทรัพย์สินกัน หลายคนอาจคิดว่า “ก็แบ่งตามกฎหมายสิ ง่ายจะตาย” แต่ความจริงกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เมื่อมีหลายคน ความต้องการก็หลากหลาย เรื่องในครอบครัวมันซับซ้อนมากกว่าที่คิด ความคิดไม่ตรงกัน ความไม่พอใจ สุดท้ายก็กลายเป็นความขัดแย้ง บางคนต้องฟ้องร้องกันเอง เพียงเพราะอยากได้ส่วนที่คิดว่าตัวเองควรได้
มีวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้ปัญหานี้ไม่เกิดขึ้นได้ นั่นคือการใช้ “ประกันชีวิต” ในการวางแผนมรดก
ด้วยการทำประกันชีวิต เราสามารถกำหนดผู้รับผลประโยชน์ได้อย่างชัดเจน ว่าใครจะได้รับเงินประกันเท่าไหร่ เมื่อเราจากไป ซึ่งการรับเงินประกันนี้ไม่ต้องผ่านการตั้งผู้จัดการมรดก ไม่ต้องรอคอย ไม่ต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายซับซ้อน เงินจะถูกโอนให้กับผู้รับผลประโยชน์ตามที่เรากำหนดไว้อย่างรวดเร็ว
หลายคนอาจสงสัยว่า “แล้วเร็วขนาดไหน?” ปกติแล้ว การเคลมสินไหมมรณกรรมจากประกันชีวิตใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน ขึ้นอยู่กับบริษัทประกัน เมื่อเทียบกับการแบ่งมรดกที่อาจต้องใช้เวลาหลายเดือน หรืออาจจะเป็นปี ถ้ามีความขัดแย้ง
อีกข้อดีของการใช้ประกันชีวิตในการวางแผนมรดกก็คือ “สิทธิประโยชน์ทางภาษี”
`เงินจากกรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นในขณะหรือภายหลังผู้เอาประกันเสียชีวิต [ซึ่งได้รับการยกเว้นตามมาตรา 42(13) แห่งประมวลรัษฎากร]ไม่ต้องเสียภาษีมรดก ซึ่งแตกต่างจากการได้รับมรดกเป็นที่ดินหรือทรัพย์สินอื่นๆ ที่อาจต้องเสียภาษีการโอนหรือค่าธรรมเนียมต่างๆ
เปรียบเทียบกับสินทรัพย์ชนิดอื่น เช่น กรณีที่มรดกเป็นที่ดินให้ลูกหลาน พวกเขาต้องไปแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ต้องไปโอนที่ดิน และต้องเสียค่าโอนอีกด้วย ในขณะที่ประกันชีวิต เงินก้อนนี้จะถูกโอนให้พวกเขาทันทีโดยไม่ต้องมีความยุ่งยากใดๆ แถมยังประหยัดภาษีและค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย
การวางแผนมรดกด้วยประกันชีวิตไม่ใช่แค่เรื่องของการจัดการทรัพย์สิน แต่มันคือการส่งต่อความรักและความห่วงใยให้กับคนที่เรารัก ด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว และปราศจากปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง
การวางแผนชีวิตไม่ใช่เรื่องที่เราควรละเลย และการทำให้ทุกอย่างชัดเจนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ เพื่อความสบายใจของคนที่เราห่วงใยเมื่อเราจากไปแล้วครับ
Leave a Reply