ปลายปีทีไร แอดมักได้รับคำถามยอดฮิตว่า “ซื้ออะไรดี?” “ซื้อตัวไหนถึงจะคุ้ม?” โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการวางแผนภาษี ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิตหรือกองทุนรวม คำถามเหล่าที่ดูเหมือนง่าย แต่ไม่ได้มีสูตรหรือคำตอบตายตัว
.
แต่ละคนมีสถานะทางการเงิน ความเสี่ยง และเป้าหมายต่างกัน การเลือกซื้ออะไรที่เหมาะสมจึงต้องเริ่มจากการสำรวจตัวเองก่อนเสมอครับ “ซื้ออะไรดี?” แอดตอบไม่ได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับคุณเอง (แต่แนะนำได้นะ)
[ขั้นแรก ลองตอบคำถามนี้ดูก่อนนะครับ
ลองคิดดูว่าเราเป็นคนที่ชอบความเสี่ยงสูงเพื่อลุ้นผลตอบแทนที่มากกว่า หรือต้องการความมั่นคงมากกว่า? ถ้าเงินติดลบซัก 10-20% แล้วรู้สึกยังไงบ้าง? ยอมรับได้มั้ย หรือว่าเครียดจนกระทบชีวิตประจำวัน?
มีเป้าหมายการเงินอะไร ใน 5 ปี, 10 ปี หรือยาวกว่านั้น?
แน่นอนการลงทุนเพื่อเกษียณต้องใช้เครื่องมือที่ต่างจากการลงทุนเพื่อเป้าหมายระยะสั้น เป้าหมายเช่น เก็บเงินแต่งงาน ซื้อบ้าน เกษียณเร็ว หรือส่งลูกเรียน?”
มีแผนสำรองในกรณีฉุกเฉินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้กี่เดือน?
ถ้ายังไม่มีเงินสำรองที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 3-6 เดือน ควรเริ่มจากการสร้างฐานนี้ก่อนนะ
การลงทุนปัจจุบันหรือสินทรัพย์ทางการเงินที่ถืออยู่คืออะไรบ้าง? ในสัดส่วนเท่าไหร่?
ลงทุนในหุ้น กองทุน หรืออสังหาริมทรัพย์อยู่แล้วหรือยัง? ความหลากหลายในพอร์ตช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี แต่การที่กระจายเยอะเกินไป ก็อาจะทำให้เราปวดหัวกับการจัดการ และทำให้การเติบโตช้าลง เพราะเงินลงทุนถูกแบ่งเป็นหน่วยย่อยมากเกินไป
ถ้าเราไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป แผนการเงินของจะยังคงไปต่อได้ไหม?”
สะท้อนการปกป้องรายได้ และความมั่นคงของคนที่เรารัก
เมื่อลองตอบคำถามเหล่านี้แล้ว แอดมั่นใจว่าเพื่อนๆ จะเริ่มเห็นภาพชัดเจนว่าความต้องการของเราคืออะไร การซื้อประกันหรือกองทุนที่เหมาะสมควรมาจากเป้าหมายทางการเงินและความสามารถในการรับความเสี่ยงของเราแบบเฉพาะเจาะจง ไม่ใช่แค่คำแนะนำทั่วไป
หลังจากลองตอบคำถามพวกนี้แล้ว มีบางจุดที่ไม่แน่ใจ หรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม ส่งข้อความมาพูดคุยกับแอดได้ครับ ยินดีช่วยวางแผนและให้คำแนะนำ เพื่อให้ปลายปีนี้ทุกการตัดสินใจเป็นการลงทุนที่มีคุณค่าและตอบโจทย์ชีวิตเราจริงๆครับ

Leave a Reply